การทำก้อนเชื้อเห็ดตีนแรด

เห็ดตีนแรด,เห็ดจั่น,เห็ดตับเต่าขาว [Macrocybe crassa Berk.]

ลักษณะทั่วไป เห็ดตีนแรดเป็นเห็ดที่มีขนาดใหญ่สีขาว หรือสีขาวปนเทา เมื่อดอกบานเต็มที่จะมีลักษณะคล้ายร่วม ก้านดอกใหญ่ น้ำหนักตั้งแต่ 800 กรัมขึ้นไป บางครั้งพบมีน้ำหนักกว่า 10 กิโลกรัม หมวกเห็ดเป็นรูปกะทะคว่ำ สีขาวหม่นหรือสีขาวนวล เมื่อเป็นดอกอ่อนขอบจะม้วนลงเป็นรูปทรงกลม ผิวเรียบ มีครีบใหญ่สีขาวสลับกับครีบสั้นและเว้าเป็นแอ่งเล็กน้อยก่อนยึดติดกับก้านดอก เห็ดตีนแรดเจริญเติบโตได้ดีในที่ที่มีอินทรีย์วัตถุสูง มีการระบายน้ำดี โดยปกติมักพบในช่วงฤดูฝนเท่านั้น แต่ในปัจจุบันได้มีการพัฒนานำเชื้อเห็ดมาเพาะเลี้ยงเป็นการค้าด้วย มีการเลี้ยงเส้นใย ทำหัวเชื้อในเมล็ดข้าวฟ่าง ทำถุงเชื้อขี้เลื่อยแล้วเทเชื้อลงถุง ซึ่งเส้นใยจะเดินเต็มถุงใช้เวลาประมาณ 45-60 วัน จากนั้นจึงนำไปเพาะควบคู่กับการปลูกผักในลักษณะของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

การผลิตถุงเชื้อ มีวัสดุเพาะที่ประกอบด้วยส่วนผสมดังนี้

- ขี้เลื่อยไม้ยางพารา 100 กิโลกรัม

- รำละเอียด 5 กิโลกรัม

- ยิปซั่ม 2 กิโลกรัม

- ปูนขาว 1 กิโลกรัม

- ดีเกลือ 200 กรัม

ทำการปรับความชื้นของวัสดุเพาะให้อยู่ในระดับประมาณ 60-65 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นทำก้อนเชื้อเห็ดเหมือนกับเห็ดอื่นทั่วๆ ไป บ่มก้อนเชื้อที่อุณหภูมิประมาณ 28-38 องศาเซลเซียสใช้เวลาในการบ่ม 50-60 วัน และก่อนที่จะนำก้อนเชื้อมาใช้ควรปล่อยให้ก้อนเชื้อพักตัวอีกประมาณ 7-10 วัน ซึ่งจะช่วยให้ก้อนเชื้อเห็ดงอกได้ดียิ่งขึ้น

การเพาะเห็ดตีนแรดร่วมกับการปลูกผัก จะมีขั้นตอนการเพาะดังนี้

1.จัดเตรียมพื้นที่และวัตถุดิบที่ใช้ในการเพาะ ได้แก่

- ดินป่นที่ขุดลึกจากผิวดิน 25 เซนติเมตร

- ก้อนเชื้อเห็ดตีนแรดที่เส้นใยเดินเต็มถุง (พื้นที่ 1 ตารางเมตร จะใช้ก้อนเชื้อ 100 ก้อน)

- แปลงเพาะที่อยู่ในพื้นที่ดอน ไม่มีน้ำท่วมขัง อากาศไม่หนาวจัดจนเกินไป

- ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเก่า

2.จัดเตรียมแปลงเพาะให้เหมาะต่อการเพาะเห็ด โดยทำเป็นบ่อลึกประมาณ 25 เซนติเมตร ขนาด1x4 เมตรต่อแปลง หรือกว้าง 1 เมตร ส่วนความยาวกำหนดเองตามความต้องการ

3.นำก้อนเชื้อเห็ดตีนแรดที่เส้นใยเดินเต็มถุงดีแล้วมาฉีกเอาถุงพลาสติกออกให้เหลือแต่ก้อนเชื้อ นำไปเรียงลงในแปลงชิดติดกันอย่างต่อเนื่องจนเต็มแปลงเพาะ (พยายามอัดก้อนเชื้อให้แน่น เพื่อให้เส้นใยของเห็ดแต่ละก้อนเดินประสานกันอย่างรวดเร็วเป็นเนื้อเดียวกัน) แล้วนำดินร่วนที่เตรียมไว้มากลบบนก้อนเชื้อให้มิดหนาประมาณ 1-3 เซนติเมตร

4.บ่มเชื้อในแปลง เห็ดตีนแรดจะใช้เวลาประมาณ 20-40 วัน ในการเกิดดอก(ถ้าในฤดูหนาวที่มีอุณหภูมิต่ำจะเกิดดอกช้า) หลังจากเกิดตุ่มดอกแล้ว 7-10 วัน จึงเก็บผลผลิตได้โดยขนาดหรือน้ำหนักดอกเห็ดจะขึ้นอยู่กับจำนวนก้อนเชื้อที่ใช้ โดยทั่วไปดอกเห็ดที่ได้จะหนักกว่า 1 กิโลกรัม และบางกลุ่มดอกอาจหนักมากกว่า 10 กิโลกรัม

5.การปลูกผัก ให้นำเมล็ดพันธุ์ผักที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น เช่น คะน้า กวางตุ้ง ผักบุ้ง คื่นไช่ มาทยอยหยอดลงในแปลง นำดินกลบบางๆ แล้วใช้ฟางข้าวคลุม รดน้ำให้ชุ่มและรักษาความชื้นไม่ให้ดินแห้ง ผักที่ปลูกจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ในระยะเวลา 40-60 วัน ซึ่งระหว่างนั้นเชื้อเห็ดตีนแรดจะเริ่มเกิดดอก เมื่อเก็บผักรุ่นแรกเสร็จให้ทำร่มเงาในแปลงผัก โดยใช้ซาแรน 60-80 เปอร์เซ็นต์ ขึงสูงประมาณ 2.5 เมตร หรือใช้ทางมะพร้าวพรางแสงและบังลมแทนก็ได้สำหรับแปลงผักที่เก็บเกี่ยวแล้วสามารถนำมาปลูกผักชี ผักกินใบที่อยู่ในร่มได้ โดยนำดินผสมปุ๋ยอินทรีย์โรยก่อนปลูกผัก แล้วนำฟางข้าวคลุม ซึ่งในระหว่างที่ผักรุ่นสองเจริญเติบโต ให้ดูแลรดน้ำและรักษาความชื้นตามปกติ และเห็ดก็จะเจริญเติบโตเก็บดอกอีกครั้งประมาณ 40-60 วัน พร้อมกับการเก็บผักควบคู่กันไป ซึ่งการเพราะเห็ดร่วมกับการปลูกผักเช่นนี้ นอกจากจะได้ผลผลิตทั้งเห็ดและผักแล้ว ยังพบว่าไม่มีแมลงรบกวนในแปลงปลูก ทำให้ได้เห็ดและผักที่ปลอดภัยจากสารพิษ ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคอีกด้วย การปฏิบัติดูแลรักษาแปลงเพาะเห็ดจะทำเช่นนี้เรื่อยไป ซึ่งระยะเวลานานเท่าใดนั้นขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา โดยมีการทดลองพบว่าสามารถเก็บผลผลิตอยู่ได้นานถึง 8 เดือน

© ฟาร์มเห็ด Bassbio. All Rights Reserved.

Login Form

Bassbio